โรงเรียนวัดละไม มีอาคารเรียน 3 หลัง โรงฝึกงาน 1 หลัง อาคารเอนกประสงค์ 1 หลังห้องสมุด 1 หลัง บ้านพักครู 1 หลัง ส้วม 3 หลัง 9 ที่นั่ง อาคารเรียนหลังที่ 1 สร้างแบบ ป.พิเศษ เมื่อ พ.ศ. 2475 เสร็จเรียบร้อย เมื่อเดือนสิงหาคม 2476 เปิดสอนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2476 มีนักเรียน 108 คน ชาย 65 คน หญิง 43 คน อาคารเรียนหลังนี้เป็นทรงปั้นหยา 2 ชั้น มุงกระเบื้องซีเมนต์ พื้นกระดาน ต่อมามีผู้อุปการะได้ก่อกำแพงคอนกรีตสูง 1 เมตร ทั้ง 4 ด้าน เสริมกันสาดมุงกระเบื้องซีเมนต์ มีประตูเข้าออกชั้นล่าง 4 ประตู ก่อถังน้ำซีเมนต์ด้านหน้า 1 ถัง ขนาด 1X2 เมตร สำหรับเก็บน้ำฝนใช้ สำหรับดื่ม ตัวอาคารกว้าง 9 เมตร ยาว 20 เมตร สูง 8 เมตร อาคารหลังนี้ พระครูประยุติธรรมโสภิต (พระอธิการไหล) พร้อมด้วยพระภิกษุ และนายน้อม สมวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านผู้อุปการะได้เป็นกำลังสำคัญ พระครูประยุติธรรมโสภิต สละเงินส่วนตัว 600.-บาท ร่วมกับราษฎรในหมู่บ้าน 500.-บาท คิดเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งหมด 6,000.-บาท(เงินหกพันบาทถ้วน)
ต่อมาปี 2504 ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ 2503 ให้เปิดชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.5-7) แต่เนื่องจากห้องเรียนไม่พอพระครูประยุตธรรมโสภิต ผู้อุปการะได้อนุญาตให้ใช้กุฏิ เดิมใช้เปิดหอฉัน เปิดสอน ป.5 เป็นการชั่วคราว ในระหว่างนั้นพระครูประยุติฯ เป็นประธานพร้อมด้วยนายชู ขวัญละมัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นายน้อม สมวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 นายชุ่ม ศิริพันธ์ ครูใหญ่ พร้อมคณะครูได้ประชุมชาวบ้านหมู่ 3-4 ตำบลมะเร็ต เพื่อขยายอาคารเรียน ที่ประชุมมีมติให้ต่อเติมอาคารหลังเก่า โดยร่วมกันสละเงิน แรงงาน สร้างต่อเติมไปทางด้านทิศใต้ ยาว 14 เมตร กว้าง 9 เมตร มีมุขยื่นออกด้านหน้าคิดเป็นค่าก่อสร้าง ต่อเติมประมาณ 65,000.-บาท แต่ยังค้างบางส่วน เช่นฝ้าเพดาน ประตู หน้าต่างชั้นล่าง ใช้เรียนไปก่อน ตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2505
ในปีงบประมาณ 2507 ทางราชการให้งบประมาณก่อสร้างต่อเติมส่วนที่ยังค้างอยู่ จนแล้วเสร็จเป็นเงิน 37,000.-บาท ในเดือนมีนาคม 2507 ยื่นฝาชั้นบน ทำระเบียง ติดลูกเกรง ต่อหลังคา ติดฝ้าเพดาน ติดบานประตู หน้าต่างก่ออิฐ ฉาบปูนห้อง อาคารหลังที่ 2 ก่อสร้างแบบ 024 จำนวน 4 ห้องเรียนเนื่องจากโรงเรียนวัดละไมเปิดสอนถึงชั้นประถมปลาย มีนักเรียนมากถึงชั้นละ 2 ห้อง ในปีการศึกษา 2507 พระครูประยุติฯผู้อุปการะพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ราษฎร กรรมการศึกษา ได้ประชุมตกลงให้มีการร่วมกันสละเงิน แรงงานและวัสดุ ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2507 โดยนายจำรัส สุพัฒนกุล นายอำเภอมาเป็นประธาน อาคารหลังนี้ยาว 18 เมตร กว้าง 9 เมตร 2 ชั้น ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงานจนถึงยกมุง ประมาณ 25,500.-บาท เป็นเงินที่รับบริจาคจากประชาชน การก่อสร้างยังค้างอยู่มาก พื้นที่ก็ต้องถม เพราะเป็นที่ลุ่ม
ปีการศึกษา 2509 ได้งบประมาณจากทางราชการเป็นเงิน 40,000.- บาท จึงได้ดำเนินการก่อสร้างต่อ จนเสร็จเรียบร้อย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2509 เปิดใช้เมื่อ วันที่ 1 สิงหาคม 2509 คิดเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 120,000.-บาท
อาคารหลังที่ 3 เป็นอาคารแบบ 017 2 ชั้น 8 ห้องเรียน เนื่องจากโรงเรียนวัดละไมตั้งอยู่ในบริเวณวัด ไม่มีที่ดินเป็นของโรงเรียนขาดบริเวณและสนามเด็กเล่น ไม่มีที่ปลูกสร้างอาคารเรียนอาคารประกอบไม่สามารถขยายต่อไปได้ ประจวบกับนักเรียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทางโรงเรียนโดยการนำของนายชุ่ม ศิริพันธ์ ได้ติดต่อขอรับบริจาคที่ดินให้โรงเรียน มีผู้สละที่ดินในหมู่ 4 จำนวน 4 รายคือ
1. นายสมจิต เหงี่ยมไพศาล อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บริจาค จำนวน 6 ไร่ 70 ต.ร.ว.
2. นางโพธิ์ เทพรักษ์ บริจาค 2 งานเศษ
3. นายผง แซ่ภู่ บริจาค 1 งาน
4. นายเท้ง แซ่ภู่ บริจาค 2 งาน
รวมเป็นที่ดินทั้งหมด 7 ไร่ 1 งาน 70 ตารางวา และที่ดินแปลงนี้อยู่ห่างจากวัดละไมประมาณ 600 เมตร
ในปี งบประมาณ 2513 ทางราชการได้ติดต่อของงบประมาณจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน แบบ 017 เป็นเงิน 150,000.-บาท และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้งบประมาณสมทบ 50,000.-บาท รวมเป็นเงิน 200,000.-บาท เริ่มวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 8 เมษายน 2514 โดยนายเอื้อน ภาระบุญ นายอำเภอเป็นประธาน ทำการยกมุง เมื่อ 7 พฤษภาคม 2514 อาคารหลังนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2515 เปิดเรียนชั้น ป 5-6-7 และได้มีผู้บริจาคเงิน, แรงงาน สร้างสิ่งต่อไปนี้.-
1. นายเหลื่อม นางมี พูลสวัสดิ์ บริจาคเงินสร้างสะพานเป็นเงิน 4,020.-บาท
2. นายดิลก สุทธิกลม สมทบเงินสร้างสะพาน 1,000.-บาท
นายหยวด-นางนงลักษณ์ รุจิจรรยง บริจาคเงินสร้างเสาธงเหล็ก 3,500.-บาท
นายจรูญ มีเดช บริจาคกระเบื้องมุงหลังคา 20,000.-บาท
นางแป้น นายวัฒน์ สองพี่น้อง บริจาคเงินสร้างบ่อน้ำ 1,200.-บาท
นอกจากนี้ราษฎรบ้านละไม ได้สละสิ่งของ อุปกรณ์ และแรงงานอาหารช่วยเหลือในการก่อสร้าง คิดเป็นเงินประมาณ 50,300.-บาท คณะกรรมการสละเงินสมทบสร้างส้วมซึม 3 ที่นั่งเป็นเงิน 10,000.-บาท
ปีงบประมาณ 2519 ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด สร้างบ้านพักครู 1 หลัง เป็นอาคารไม้ 2 ห้องนอน ใต้ถุนสูงเป็นเงิน 40,000.-บาท
ปีงบประมาณ 2522 กระทรวงสาธารสุข ให้งบประมาณสร้างถังเก็บน้ำประปา เงิน 6,000.-บาท และสปช. ให้งบสร้างถังเก็บน้ำฝน แบบ ฝ.33 ความจุ 33 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเก็บน้ำฝนไว้ดื่ม บริเวณหลังอาคาร 3 เป็นเงิน 20,000.-บาท
ปีงบประมาณ 2523 นายชุ่ม ศิริพันธ์ ได้ขอลาออกจากราชการ ทางราชการมีคำสั่งแต่งตั้งให้นายนิยม กุฎีคง ดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทนต่อไป
ปีงบประมาณ 2524 ได้รับงบสร้างส้วมซึม ขนาด 2 ที่นั่ง เงิน 20,000.-บาท
ปี งบประมาณ 2526 สปช.อนุมัติเงินงบประมาณสร้างส้วมจำนวน 4 ที่นั่ง เงิน 50,000.-บาท
ปี พ.ศ. 2527 คณะครู กรรมการศึกษา ผู้ใหญ่บ้านร่วมกันบริจาคเงิน สร้างบ่อน้ำ โดยสุวัฒน์ เจริญสุข บริจาคปล่องบ่อ จำนวน 10 ปล่อง รวมของคณะครูเป็น 15 ปล่อง คิดเป็นเป็นค่าวัสดุ 1,930.-บาท ค่าแรงทั้งสิ้นประมาณ 2,000.-บาท รวมค่าก่อสร้าง ทั้งสิ้น 3,930.-บาท
นับตั้งแต่ทางโรงเรียน ได้แยกนักเรียนเข้าเรียนเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอาคาร 1-2 อยู่ในบริเวณวัดละไม และส่วนที่ 2 อาคาร 3 ทำให้เกิดปัญหาจัดการเรียนการสอน การบริหารพอสมควร
ปีงบประมาณ 2529 นายอำพัน มีเพียร อาจารย์ใหญ่เกษียณอายุราชการ จนถึงเดือนมิถุนายน 2530 ทางราชการได้แต่งตั้งนายไพศาล ฉายสินสอน มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่แทนตำแหน่งที่เกษียณ ปลายภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2530 ได้ประชุมคณะครูกรรมการศึกษาผู้อุปการะทั้ง 3 หมู่บ้าน (3,4,6) เพื่อแจ้งปัญหาโดยรื้อย้ายไปเรียนโดยคณะครู-ภารโรง ได้ดำเนินการรื้อย้าย นักเรียนพร้อมวัสดุอุปกรณ์ มาเรียนรวมกันที่อาคาร 3 ในวันเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2530 ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ อาคารเรียน ห้องเรียนไม่พอ ทางโรงเรียนพยายามแก้ปัญหา ดังกล่าว จนกว่าจะได้งบประมาณมาก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
ปีงบประมาณ 2532 ได้งบประมาณสร้างอาคารเอนกประสงค์ 120,000.-บาท และในปีงบประมาณเดียวกัน นายไพศาล ฉายสินสอน อาจารย์ใหญ่ขอลาออก และทางราชการได้มีคำสั่งที่ 482/2532 สั่ง ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2532 ให้นายไพศาล ฉายสินสอน พ้นจากตำแหน่ง นายลาภ ผลผลา อ.2 โรงเรียนนี้ รักษาการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ จนถึงวันที่ 18 กันยายน 2532 สปจ.สุราษฎร์ธานี มีคำสั่งที่ 694/2532 แต่งตั้งนายทวี วิริยะพิทักษ์ มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่แทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในปีเดียวกันนี้ โดยความร่วมมือและประสานงานของกรรมการศึกษา และกรรมการอุปถัมภ์ ได้มีนายส่วน-นางสมจิตร เค้าอุทัย ได้แจ้งความประสงค์สร้างห้องสมุด แยกเป็นเอกเทศให้กับทางโรงเรียนการดำเนินการสร้างห้องสมุดได้แล้วเสร็จเมื่อ เดือนมีนาคม 2532 ในวงเงิน 400,000.-บาท ได้จัดพิธีรับมอบโดย นายปรุง พวงนัดดา ผอ.กองวิชาการ แทนท่านเลขาฯให้เกียรติมาเป็นประธานรับมอบ ในวันที่ 15 สิงหาคม 2532 และ นายทวี วิริยะพิทักษ์ ได้ดำรงตำแหน่งจนถึง ปี พ.ศ. 2536
นายปราโมทย์ พรหมรักษ์ บรรจุตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ต่อจาก นายทวี วิริยะพิทักษ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2536 ปี พ.ศ. 2536 สร้างส้วมแบบ 601/26 จำนวน 1 ที่ 2 ที่นั่ง โดยงบประมาณ สปช. 45,000.-บาท
ปี พ.ศ. 2539 สร้างอาคารเรียน แบบ สปช. 105/29/4 โดยงบประมาณ สปช. 1,640,000.-บาท และสนามบาสอเนกประสงค์ โดยงบประมาณ ส.ส. จังหวัดสุราษฎร์ธานี สนับสนุนโดยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเงิน 207,000.-บาท
ปี พ.ศ.2540 ได้สร้างคูระบายน้ำคอนกรีตซีแพค 80 ม. สนามฟุตบอล โดยใช้เงินนอกงบประมาณที่เหลือจากการมอบทุนการศึกษาประจำปี เป็นเงิน 135,000.-บาท และสร้างแผงคอนกรีตกันดิน หน้าอาคารเรียน เป็นเงิน 30,000.- บาท
ปี พ.ศ. 2542 ได้รับงบประมาณจากทางราชการต่อเติมอาคารเรียน สปช. 105/29 จำนวน 2 ห้องเรียน
ผลจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดีเด่นของโรงเรียนที่น่าจะได้นำเสนอไว้ในที่นี้คือในช่วงระหว่างปี 2512 – 2517 นักเรียน ป. 4 ของโรงเรียนได้รับทุนนักเรียนฉลาด 3 ปีติดต่อกัน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 สอบได้ระดับที่ 1 ของอำเภอเกาะสมุย 2 ปีติดต่อกัน ในปี 2516 นักเรียนชั้นป. 7 ได้รับพระราชทานรางวัลนักเรียนดีเด่น และโรงเรียนได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนดีเด่นของภาคการศึกษา 3 ได้รับพระราชทานรางวัล จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 2,000.- บาท นายชุ่ม ศิริพันธ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารสมัยนั้น ได้นำเงินจำนวนนี้ เป็นกองทุนเพื่อนำดอกผลมาช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองและประชาชน ได้ร่วมบริจาคสมทบทุกปี ปัจจุบันมีเงินกองทุนประมาณ 700,000.-กว่าบาท โดยมีคณะกรรมการเก็บรักษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หลังจากนั้นโรงเรียนได้รับการจัดตั้งให้เป็นโรงเรียนตัวอย่างของจังหวัด
ประวัติการจัดสร้างและการดำเนินงานจัดการศึกษาของโรงเรียนในอดีตที่ผ่านมา นับเป็นตัวอย่างของความร่วมมือ สามัคคีเสียสละ ของประชาชนที่ช่วยกันทะนุบำรุงการศึกษา เพื่อลูกหลานจนกระทั่งปัจจุบัน บรรดาศิษย์เก่าผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนทั่วไปยังคงให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการจัดการศึกษาของโรงเรียนแห่งนี |